วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2562

อยากรับพรีออเดอร์สินค้าจากจีนต้องรู้! 5 Step สำหรับคนเริ่มเปิดร้านพรีออเดอร์

อยากรับพรีออเดอร์สินค้าจากจีนต้องรู้! 5 Step สำหรับคนเริ่มเปิดร้านพรีออเดอร์


อยากรับพรีออเดอร์สินค้าจากจีนต้องรู้! 5 Step สำหรับคนเริ่มเปิดร้านพรีออเดอร์
 

ถึงช่วงนี้เทรนด์การขายของออนไลน์ด้วยการรับพรีออเดอร์สินค้าจากประเทศจีนจะดูแผ่วลงไปบ้างเพราะมีร้านจากจีนบุกมาตีตลาดบนแพลทฟอร์มขายของออนไลน์โดยตรง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการรับพรีสินค้าจากจีนยังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอ เพราะสินค้าที่ได้มีราคาถูก หลากหลาย และคุณภาพดี ทำให้ลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้าราคาไม่แพงจากประเทศจีนมองหาพ่อค้าแม่ค้าพรีออเดอร์อยู่ตลอด
เพราะช่องทางรวยแบบจับเสือมือเปล่านี่เองที่ทำให้หลายคนอยากมาเริ่มต้นพรีออเดอร์สินค้าจีนกันบ้าง แต่จะเริ่มยังไงให้ร้านไปรอดแบบมั่นคง วันนี้เรามีเทคนิคการเริ่มต้นรับพรีออเดอร์สินค้าจากประเทศจีนมาฝากแบบ Step by Step รับรองว่าอ่านบทความนี้จบแล้ว สามารถรับพรีออเดอร์สินค้าจากจีนได้อย่างเป็นระบบแน่นอน
1. หาสินค้าที่จะขาย
ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้ก่อนว่า “เราอยากขายอะไร” อะไรคือสินค้าที่เราถนัด หากนำเข้ามาแล้วจะขายได้จริง มีความรู้ สามารถให้คำแนะนำลูกค้าได้ สินค้าที่พรีออเดอร์จากจีนมีเยอะมากต้องแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องเขียน ของใช้ในบ้าน ไปจนถึงสินค้าแปลก ๆ เพราะฉะนั้นลองดูทิศทางตลาดก่อนตัดสินใจเลือกสินค้าให้ดี

2. หาเว็บไซต์แหล่งขายสินค้า
เมื่อเลือกสินค้าที่เราอยากขายได้แล้วขั้นต่อไปก็คือมองหาเว็บไซต์ที่เราสามารถสั่งซื้อสินค้าชนิดนั้นแบบออนไลน์ได้ ซึ่งเว็บยอดนิยมของจีนก็มีทั้ง Taobao, 1668.com หรือ Aliexpress เป็นต้น

3. หาบริษัทรับนำเข้าสินค้า (Shipping)
เมื่อหาแหล่งซื้อสินค้าได้แล้วขั้นต่อไปก็ต้องหาเว็บไซต์บริษัทที่รับนำเข้าสินค้าหรือที่หลายคนเรียกว่าตัวแทนชิปปิ้ง เพราะการสั่งซื้อผ่านเว็บ Shipping นั้นสะดวกกว่าเราดำเนินการเองแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของขั้นตอนการสั่งซื้อ การนำเข้า หรือการผ่านพิธีศุลกากร เพราะผู้ให้บริการชิปปิ้งจะจัดการทุกอย่างให้เราทั้งหมด เราแค่สั่งซื้อ ชำระค่าสินค้าและค่าจัดส่ง จากนั้นก็รอรับสินค้าได้เลย

อยากรับพรีออเดอร์สินค้าจากจีนต้องรู้! 5 Step สำหรับคนเริ่มเปิดร้านพรีออเดอร์

4. วางระบบวิธีรับชำระเงิน
จะเปิดร้านพรีออเดอร์ทั้งทีนอกจากมีแหล่งสินค้าและมีตัวแทนชิปปิ้งมืออาชีพคอยให้บริการแล้ว การวางระบบของร้านก็ต้องดีด้วย ขั้นแรกคือการวางระบบวิธีรับชำระเงิน เพราะสินค้าพรีออเดอร์มีระยะเวลานำเข้านานกว่าปกติ จึงต้องแจ้งลูกค้าให้ชัดเจนว่าต้องรอสินค้ากี่วัน จะรับชำระแบบเต็มจำนวนหรือรับมัดจำเป็นสัดส่วนเท่าไรก่อน หรือบางคนอาจให้ลูกค้าจ่ายเต็มจำนวนก่อนได้สินค้าเลยก็มี

5. กำหนดรอบเปิด-ปิดพรีออเดอร์
การกำหนดรอบเปิด-ปิดพรีออเดอร์จากจีนเป็นเทคนิคช่วยลดความผิดพลาด ทำให้เราจัดการการสั่งสินค้าแต่ละครั้งได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นลองกำหนดรอบให้สอดคล้องกับระยะเวลาพรีออเดอร์จากจีนก็จะช่วยให้คุณจัดการร้านได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ 5 Step ง่าย ๆ เราก็สามารถเปิดร้านรับพรีออเดอร์สินค้าจากจีนได้แล้ว แต่อย่าลืมเรื่องการวางระบบและการแจ้งระยะเวลาการพรีออเดอร์แต่ละครั้งแก่ลูกค้าให้ชัดเจนด้วยทุกครั้งเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันเรื่องระยะเวลาสั่งของนั่นเอง


คุณกำลังมองหา บริษัทช่วยเรื่องพรีออเดอร์ อยู่หรือเปล่า
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tpi2001.com

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562

8 ขั้นตอน พรีออเดอร์สินค้าจากจีนง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้ด้วยตัวเอง

8 ขั้นตอน พรีออเดอร์สินค้าจากจีนง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้ด้วยตัวเอง


8 ขั้นตอน พรีออเดอร์สินค้าจากจีนง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้ด้วยตัวเอง
 

ในโลกที่ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว การพรีออเดอร์สินค้าราคาถูกจากประเทศจีนเองก็เช่นกัน ปัจจุบันการสั่งของจากประเทศจีนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว เพราะเราสามารถใช้บริการชิปปิ้งเว็บเดียวจบ พรีออเดอร์สินค้าจากจีนได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องกำแพงภาษา ภาษี หรือกระบวนการนำเข้าสินค้าที่ยุ่งยากอีกต่อไป แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสั่งของหรือพรีออเดอร์สินค้าจากจีนยังไง วันนี้เรามีคำแนะนำและขั้นตอนแบบง่าย ๆ ที่มือใหม่ก็ทำได้มาฝาก
1. สมัครสมาชิกเว็บไซต์ชิปปิ้งเพื่อใช้บริการรับพรีออเดอร์สินค้าจากจีน
ก่อนอื่นให้เราทำการสมัครสมาชิกกับเว็บไซต์ชิปปิ้งหรือเว็บไซต์ที่มีบริการรับพรีออเดอร์สินค้าจากประเทศจีนเป็นอันดับแรก เพื่อให้เว็บชิปปิ้งเป็นตัวแทนสั่งสินค้าและดำเนินกระบวนการนำเข้าไปจนถึงการจัดส่งทุกขั้นตอนแทนเรา

2. เลือกสินค้าและนำลิ้งค์มาวางที่เว็บนั้น ๆ
หลังจากสมัครสมาชิกเว็บชิปปิ้งที่เราต้องการแล้ว จากนั้นเมื่อต้องการสั่งสินค้าจากจีนก็ให้เราเข้าไปยังเว็บไซต์ที่ต้องการได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเว็บ Aliexpress, Taobao หรือเว็บไซต์ขายสินค้าราคาถูกจากประเทศจีนอื่น ๆ ที่ทางชิปปิ้งรับสั่งของแทนเรา จากนั้นจึง Copy ลิ้งค์สินค้าที่ต้องการมาวางบริเวณแถบเมนูของทางเว็บ (ส่วนนี้หน้าตาหรือระบบของแต่ละเว็บอาจแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่แถบเมนูนี้จะระบุให้เราเห็นชัดเจนว่าเป็นช่องที่สามารถนำลิ้งค์สินค้ามาวางได้) จากนั้นจึงทำการเลือกแบบ สี จำนวน แล้วกดสั่งซื้อสินค้าตามปกติ

3. รอทางเว็บตรวจสอบออเดอร์
หลังจากสั่งสินค้าจากจีนได้ตามความต้องการแล้ว ให้เรากดยืนยันออเดอร์ จากนั้นรอทางเว็บไซต์ชิปปิ้งตรวจสอบออเดอร์ของเราก่อน การตรวจสอบออเดอร์เป็นขั้นตอนที่ทางเว็บชิปปิ้งจะได้เช็กสต็อกของสินค้าชิ้นนั้นกับทางร้านค้าว่าสินค้ายังมีอยู่หรือไม่ หรือเป็นสิ่งของต้องห้ามที่ทางเว็บไซต์ชิปปิ้งมีเงื่อนไขในการรับสั่งหรือเปล่านั่นเอง

4. ชำระค่าสินค้า
หลังจากทางเว็บไซต์ตรวจสอบออเดอร์เรียบร้อยแล้วก็จะทำการสรุปยอดที่เราต้องชำระรอบที่ 1 ประกอบไปด้วยค่าสินค้าและค่าขนส่งจากร้านมายังโกดังสินค้าในประเทศจีน ราคาที่เราต้องจ่ายจะอ้างอิงจากเรทเงินหยวนในขณะนั้น และค่าขนส่งจากจีนมาไทยยังเป็นค่าบริการรวมถึงภาษีนำเข้าด้วย

8 ขั้นตอน พรีออเดอร์สินค้าจากจีนง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้ด้วยตัวเอง

5. รอ ร๊อ รอ
ขั้นตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ต้องรอสินค้าอย่างใจเย็น เมื่อทางเว็บชิปปิ้งได้รับยอดชำระของเราทางเว็บก็จะทำการสั่งซื้อสินค้าตามที่เราต้องการให้ จากนั้นก็แค่รอร้านในจีนส่งของมายังโกดังสินค้าของเว้บไซต์ชิปปิ้งซึ่งเป็นโกดังที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนโดยเฉพาะ

6. คลังสินค้าจีนรับของ พร้อมส่งกลับมาไทย
หลังจากคลังสินค้าในประเทศจีนได้รับของแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจสอบและ Re Package หรือก็คือทำการแพ็กสินค้าให้เราใหม่อีกครั้งแล้วจึงทำการส่งมายังประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีวิธีส่งให้เราเลือก 2 แบบคือ การส่งสินค้าจากจีนมาไทยทางรถและการส่งทางเรือ โดยการขนส่งทางรถจะใช้เวลาน้อยกว่า ส่วนการส่งทางเรือจะใช้เวลานานกว่าแต่ก็มีราคาถูกกว่า

7. คลังสินค้าไทยรับของ ประเมินค่าส่ง
เมื่อคลังสินค้าในประเทศไทยรับของแล้วเจ้าหน้าที่จะทำการประเมินค่าส่งสินค้าในประเทศไทยให้เราอีกครั้งตามวิธีการส่งที่เราเลือกไว้ เช่น ราคาส่ง EMS หรือการส่งด้วยบริษัทเอกชนอื่น ๆ เช่น Kerry หรือ SCG เป็นต้น

8. ส่งสินค้าถึงมือเรา
เมื่อทางเว็บไซต์ชิปปิ้งประเมินค่าส่งในไทยเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะชำระค่าส่ง หลังเราชำระค่าส่งทางชิปปิ้งก็จะส่งของให้เรา ส่งตรงถึงบ้านตามวิธีการขนส่งที่เราเลือกไว้ การพรีออเดอร์สินค้าจากประเทศจีนไม่ใช่เรื่องยาก แค่เรารู้ช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ในทุกขั้นตอนอย่างการใช้บริการเว็บไซต์ชิปปิ้ง แค่นี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็สามารถสั่งสินค้าราคาถูกจากประเทศจีนได้แล้ว


คุณกำลังมองหา บริษัทช่วยเรื่องพรีออเดอร์ อยู่หรือเปล่า
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tpi2001.com

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2562

4 ขั้นตอนการนำเข้าสินค้าจากจีน พร้อมเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับพิธีศุลกากร


4 ขั้นตอนการนำเข้าสินค้าจากจีน พร้อมเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับพิธีศุลกากร
 

ปัจจุบันการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนได้รับความนิยมขึ้นมาก เพราะเรามีอินเทอร์เน็ตทำให้สามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ง่าย ๆ แต่สำหรับพ่อค้าแม่ค้าหรือคนที่ต้องการนำเข้าสินค้าจากจีนคราวละมาก ๆ การใช้บริการ Shipping ก็เหมาะสมกว่าและยังช่วยอำนวยความสะดวกให้เรามากกว่าด้วย
แต่การนำเข้าสินค้าต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง ทำไมการนำเข้าผ่านบริการ Shipping ถึงสะดวกกว่า? ในบทความวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเรื่องขั้นตอนการนำเข้าสินค้ารวมถึงเอกสารที่ต้องเตรียมการหากต้องการนำเข้าสินค้ากันค่ะ
ขั้นตอนนำเข้าสินค้าจากจีน เมื่อสินค้าที่เราสั่งซื้อเพื่อนำเข้าเดินทางมาถึงประเทศไทย เราต้องติดต่อสายการบินหรือสายการเดินเรือเพื่อชำระค่าใช้จ่ายปลายทาง นำใบตราส่งสินค้าเปลี่ยนเป็นใบปล่อยสินค้า และผ่านพิธีศุลกากรก่อนเบิกของ โดยเราสามารถทำด้วยตัวเองหรือผ่านตัวแทน Shipping ก็ได้ แต่หากเราสั่งของผ่าน Shipping แต่แรก ทางตัวแทนจะจัดการให้เราหมดทุกขั้นตอน

1. ยื่นเอกสารข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า
การยื่นเอกสารข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า ต้องทำการกรอกข้อมูลดังต่อไปนี้
• ข้อมูลเรือเข้า
• ใบตราส่งสินค้า
• บัญชีรายการสินค้าทุกรายการ
• บัญชีรายละเอียดการบรรจุหีบห่อ
• เอกสารอื่น ๆ เช่น เอกสารผู้รับบรรทุกหรือผู้รับประกันภัยธนาคาร
• ใบอนุญาตนําเข้าหรือเอกสารอื่นตามที่กฎหมายกำหนด
จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งเข้าไปในฐานระบบของศุลกากรต่อไป
2. ยื่นใบขนสินค้าขาเข้าให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบ
หลังจากศุลกากรได้รับข้อมูลแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นในใบขนสินค้าขาเข้าของเรา หากมีข้อมูลผิดพลาดต้องทำการแก้ไขให้ถูกต้องและครบถ้วน จากนั้นเมื่อข้อมูลทั้งหมดถูกต้องแล้ว ศุลกากรจะออกเลขที่ใบขนสินค้าให้กับเรา
3. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลสินค้าพร้อมแจ้งรายละเอียดเงื่อนไขภาษีอากร
ในขั้นตอนนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรายละเอียดสินค้าและแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
• ใบขนสินค้าขาเข้าประเภทที่ไม่ต้องตรวจสอบพิธีการ (Green Line) สินค้าประเภทนี้สามารถนำใบขนสินค้าขาเข้าไปชำระภาษีอากรและวางประกันที่เกี่ยวข้องได้ทันที
• ใบขนสินค้าขาเข้าประเภทที่ต้องตรวจสอบพิธีการ (Red Line) สินค้าประเภทนี้ต้องนำใบขนสินค้าขาเข้าไปติดต่อกับหน่วยงานประเมินอากรของท่านที่นำเข้าสินค้าก่อนเพื่อให้กลายเป็นสินค้า Green Line
จากนั้นสามารถชำระภาษีอากรได้ 3 ช่องทางที่เราสะดวก คือ ผ่านกรมศุลกากร, ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และผ่านช่องทางธนาคาร
4. เจ้าหน้าที่ทำการตรวจและปล่อยสินค้า
หลังจากยื่นใบขนสินค้าขาเข้ากับใบเสร็จรับเงินที่เราไปจ่ายค่าภาษีอากรที่คลังสินค้า เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลของสินค้าเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง จากนั้นจึงจะทำการปล่อยสินค้าไปยังที่อยู่ของผู้นำเข้าในที่สุด

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมในการนำเข้าสินค้า
เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมในการนำเข้าสินค้า
1. ใบขนสินค้าขาเข้าพร้อมคู่ฉบับ 1 ฉบับ
2. แบบรายละเอียดข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า
3. สําเนาใบตราส่งสินค้า
4. สําเนาบัญชีราคาสินค้า
5. บัญชีรายละเอียดบรรจุหีบห่อ (ถ้ามี)
6. ใบแจ้งยอดเบี้ยประกัน (ถ้ามี)
7. ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตสําหรับของควบคุมการนําเข้า (ถ้ามี)
8. ใบรับรองแหล่งกําเนิดสินค้า (กรณีขอลดอัตราอากร)
9. เอกสารที่จําเป็นอื่นๆ
ขั้นตอนการนำเข้าสินค้าผ่านพิธีศุลกากรอาจดูเหมือนไม่ยุ่งยาก แต่หากเราใช้บริการ Shipping ก็จะประหยัดเวลาและสะดวกกว่ามาก เพราะไม่ต้องเตรียมการเองรวมถึงไม่จำเป็นต้องเดินทางไปดำเนินการเองถึงที่ด้วย
สำหรับบทความในวันนี้เราก็หวังว่าพ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่สนใจนำเข้าสินค้าจากจีนทุกท่านจะเข้าใจขั้นตอนการนำเข้าและการผ่านพิธีศุลกากรมากขึ้น เพื่อให้คุณสามารถวางแผนและเผื่อระยะเวลาในการนำเข้าสินค้าได้ง่ายขึ้น


คุณกำลังมองหา บริษัทนำเข้า ส่งออกต่างประเทศ อยู่หรือเปล่า
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaitpi.com

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2562

นำเข้าสินค้าจากประเทศจีนง่ายและสะดวกกว่า ด้วยบริการจาก บริษัททีพีไอฯ

นำเข้าสินค้าจากประเทศจีนง่ายและสะดวกกว่า ด้วยบริการจาก บริษัททีพีไอ.อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต แอนด์ ชิปปิ้งจำกัด


นำเข้าสินค้าจากประเทศจีนง่ายและสะดวกกว่า ด้วยบริการจาก บริษัททีพีไอ.อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต แอนด์ ชิปปิ้งจำกัด
นำเข้าสินค้าจากประเทศจีนง่ายและสะดวกกว่า ด้วยบริการจาก บริษัททีพีไอ.อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต แอนด์ ชิปปิ้งจำกัด

หลายคนอาจคิดว่าการนำเข้าสินค้าหรือสั่งสินค้าจากต่างประเทศเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะการสั่งสินค้าจากประเทศจีนที่ระบบเว็บไซต์ค่อนข้างเฉพาะตัว การสั่งสินค้าต่าง ๆ ต้องสมัครสมาชิกและบางเว็บก็ต้องจัดส่งภายในประเทศจีนเท่านั้น แต่ปัจจุบันการสั่งสินค้าจากจีนกลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น เพราะเรามีบริษัทชิปปิ้งเป็นคนกลางจัดการทุกอย่างให้ตั้งแต่ต้นจนจบ

หลายคนอาจคิดว่าการนำเข้าสินค้าหรือสั่งสินค้าจากต่างประเทศเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะการสั่งสินค้าจากประเทศจีนที่ระบบเว็บไซต์ค่อนข้างเฉพาะตัว การสั่งสินค้าต่าง ๆ ต้องสมัครสมาชิกและบางเว็บก็ต้องจัดส่งภายในประเทศจีนเท่านั้น แต่ปัจจุบันการสั่งสินค้าจากจีนกลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น เพราะเรามีบริษัทชิปปิ้งเป็นคนกลางจัดการทุกอย่างให้ตั้งแต่ต้นจนจบ
สั่งสินค้านำเข้าจากจีน ดีอย่างไร?
1. สินค้าราคาถูก
สินค้าจากประเทศจีนนั้นมีราคาถูก อีกทั้งปัจจุบันคุณภาพสินค้าที่ผลิตจากจีนเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ทำให้หลายคนหันมาสนใจการนำเข้าสินค้าและผลิตภัณฑ์จากจีนโดยเฉพาะเพื่อการนำมาจำหน่าย
2. สินค้ามีให้เลือกหลากหลาย
เนื่องจากเป็นการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและจีนเองก็เป็นประเทศที่มีโรงงานผลิตสินค้าหลายอย่าง ทำให้สินค้ามีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ เครื่องเขียน ของแต่งบ้าน หรือเครื่องใช้จิปาถะอื่น ๆ นอกจากนี้แบบของสินค้ายังแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร มีสินค้าใหม่อัพเดททันกระแสอยู่เสมอ
3. มีให้เลือกทั้งราคาปลีกและส่ง การสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์บางเว็บมีให้เลือกทั้งราคาปลีกและส่งเนื่องจากผู้ผลิตหรือโรงงานจัดจำหน่ายเอง เหมาะสำหรับการสั่งซื้อครั้งละมาก ๆ เพื่อนำมาจำหน่าย

นำเข้าสินค้าจากบริษัทชิปปิ้งจากจีน มีขั้นตอนอย่างไร?
ส่วนใหญ่แล้วการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนมักใช้บริการขนส่งทางเรือเนื่องจากมีราคาถูก สามารถสั่งได้ครั้งละมาก ๆ ทำให้ต้นทุนต่ำ นำมาขายต่อได้กำไรดี โดยขั้นตอนจะเริ่มตั้งแต่การสั่งซื้อ จากนั้นร้านค้าจะส่งสินค้าไปยังโกดังของบริษัทชิปปิ้งที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน หลังได้รับสินค้าจากร้านที่เราสั่งแล้ว บริษัทชิปปิ้งจึงจะเตรียมแพ็คเพื่อนำส่งสู่ประเทศไทยต่อไป มีขั้นตอนโดยสังเขป ดังนี้
• เมื่อสินค้าจากจีนส่งถึงโกดัง ผู้ส่งออก (Exporter) ซึ่งก็คือตัวแทนหรือบริษัทชิปปิ้งจะดำเนินการเรื่องเอกสาร ใบจองระวางเรือ หรือเอกสารสำคัญอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อส่งสินค้าจากจีนมายังประเทศไทย
• นำสินค้าผ่านศุลกากรและขั้นตอนต่าง ๆ จากนั้นนำส่งไปยังท่าเรือต้นทาง (Port of Loading) เพื่อให้บริการเดินเรือยกตู้สินค้าขึ้นเรือและออกเอกสารใบตราส่งสินค้า (Bill of Landing) พร้อมเรียกเก็บค่าส่งออก หากเป็นการขนส่งทางรถหรือเครื่องบิน ก็นำส่งไปยังบริการที่ทางชิปปิ้งเป็นพันธมิตรโดยมีขั้นตอนเช่นเดียวกัน
• เมื่อสินค้าเดินทางไปถึงท่าเรือปลายทาง (Port of Discharge) และยกตู้สินค้าลงจากเรือเรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องทำการชำระ Local Charges แล้วจึงนำใบตราส่งสินค้าไปเปลี่ยนเป็นใบปล่อยสินค้าเพื่อการนำออกสินค้า
• ทำการส่งไปยังโกดังของบริษัทที่อยู่ในประเทศไทย จากนั้นจึงนำส่งสินค้าให้กับลูกค้าตามที่อยู่ในประเทศต่อไป
การสั่งสินค้าเพื่อนำเข้าจากประเทศจีนไม่ใช่เรื่องยาก หากเราเลือกตัวแทนหรือบริษัทชิปปิ้งที่มีความรู้และมีประสบการณ์เรื่องนำเข้าสินค้าจากจีนโดยเฉพาะ เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เราในทุกขั้นตอน อีกทั้งยังช่วยให้การนำเข้าสินค้าเป็นไปอย่างถูกต้อง มีการประกันความเสี่ยงในสินค้า ช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมาภายหลัง ทำให้เรานำเข้าสินค้าจากประเทศจีนได้สะดวก รวดเร็ว ง่าย และสบายใจ


คุณกำลังมองหา บริษัทส่งออกต่างประเทศ อยู่หรือเปล่า
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaitpi.com

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2562

รู้จักกับเอกสาร FORM E ช่วยลดภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีน



รู้จักกับเอกสาร FORM E ช่วยลดภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีน
สำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางนำสินค้าเข้ามาจากประเทศจีนอีกเอกสารสำคัญที่ต้องทำความรู้จักนั่นคือ FORM E โดยเอกสารนี้ถือเป็นเอกสารสำหรับแสดงถิ่นกำเนิดของสินค้าระหว่างประเทศจีนกับบรรดาประเทศในอาเซียน เป็นเอกสารช่วยยืนยันวัตถุดิบต่าง ๆ พร้อมทั้งระบุว่าผลิตจากประเทศจีนหรือประเทศในอาเซียน แม้คนส่วนใหญ่ที่นำเข้าจะรู้จักเอกสารตัวนี้เป็นอย่างดี แต่อย่าลืมว่าบางครั้งการนำเข้าสินค้าอาจเกิดปัญหาได้ ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจในรายละเอียดให้มากขึ้น
ชื่อ Shipper กับ Consignee ที่ระบุไว้ใน FORM E ต้องแบบเดียวกับ Bill of Lading
Shipper คือ ผู้ขาย Consignee คือผู้ซื้อ ต้องมีการระบุเอาไว้ถูกต้องเหมือนกันหมดทุกตัวอักษร ห้ามผิดเพราะจะใช้งานไม่ได้ทันที
ใส่ Shipping Mark ในเอกสารทุกครั้ง
หากไม่ต้องการชี้แจงเหตุผลหรือไม่อยากวางประกันซึ่งคือการจ่ายภาษีนำเข้าครบถ้วนทุกบาทเอาไว้ก่อนล่วงหน้า จากนั้นจะมีการนำเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องใส่ Shipping Mark เอาไว้ในเอกสารทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นอาจต้องเสียภาษีเต็ม ๆ
HS.Code หรือพิกัดอัตราภาษีต้องมีการตรวจสอบจาก Shipping ก่อนเสมอ
ก่อนนำเข้าสินค้าประเภทใดจากจีนเข้ามาก็ตามควรทำการตรวจสอบพิกัดอัตราภาษีนำเข้าโดย Shipping ที่ก่อนเสมอแล้วจึงค่อยออกของ แนะนำว่าต้องขอ Draft FORM E จากผู้ขายมาด้วยทุกครั้งเพื่อตรวจสอบก่อนออกเอกสารจริง
Commercial Invoice ทั้งเลขที่และวันที่ต้องตรงกับที่เขียนไว้ใน FORM E
คนที่เคยนำเข้าจะเห็นว่าช่องที่ 10 ของตัว FORM E จะมีช่องให้เขียนวันที่กับเลขที่ของ Commercial Invoice ตรงนี้ต้องเช็คให้แน่ใจก่อนเขียน หากผิดพลาดขึ้นมาต้องแก้ไขสถานเดียวและมันยุ่งยากมาก ๆ เลย
จำนวนแพ็กเกจ ราคาสินค้า ที่ระบุใน Invoice และ Packing list ต้องเหมือนกับที่ใช้ใน FORM E
สินค้าทุกชนิดที่ถูกระบุเอาไว้ใน Invoice และ Packing ต้องถูกระบุไว้ใน FORM E พร้อมมีจำนวนกับราคาตรงกันหมด ส่วนสินค้าที่ไม่ได้ใช้ฟอร์มตัวนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ อย่าลืมว่าให้แยกรายการสินค้าด้วยแม้ว่าจะเป็นสินค้าที่มีพิกัดอัตราภาษีนำเข้าเหมือนกัน วิธีเดียวที่รวมรายการได้คือราคาเท่ากัน เป็นสินค้าแบบเดียวกันอาจต่างด้วยลักษณะเล็กน้อย เช่น สี, ขนาด ทั้งนี้ต้องตรวจสอบได้ว่าเป็นสินค้าประเภทเดียวกันจริง ๆ
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวง่าย ๆ เกี่ยวกับเอกสาร FORM E ที่คนนำเข้าสินค้าจากจีนมายังเมืองไทยจำเป็นต้องรู้ เหตุผลหลัก ๆ ก็คือการช่วยให้คุณได้ส่วนลดภาษีนำเข้าดีกว่าต้องจ่ายภาษีแบบเต็ม ๆ อีกทั้งหากทำผิดขั้นตอนไหนการแก้ไขเป็นเรื่องยุ่งยากมากทีเดียว คงไม่มีใครอยากวุ่นวายกับเรื่องเอกสารเหล่านี้แถมต้องเสียเงินแพง ๆ แน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เผยเคล็ดลับการส่งผลไม้ไปประเทศจีน


1. การขออนุญาตเป็นผู้ส่งออกสินค้าของไทย ต้องดำเนินเรื่องขออนุญาตเป็นผู้ส่งออกสินค้ากับกรมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้บัตรประจำตัวผู้ส่งออกไว้ใช้ในการออกหนังสือรับรองและใบอนุญาตต่างๆที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการส่งออกจากประเทศไทย โดยผู้ยื่นคำขอจะต้องเป็นนิติบุคคล (บริษัท/ห้างหุ้นส่วนจำกัด) ที่มีการจดเลขที่ผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว (มีใบ ภ.พ.20) ซึ่งปัจจุบันผู้ขอสามารถกรอกคำร้องขอมีบัตรประจำตัวผู้ส่งออก ผู้นำเข้าได้ทางเว็บไซต์ http://reg-users.dft.go.th (กดหัวข้อดาวน์โหลด) พร้อมแนบเอกสารเพิ่มเติมตามที่กำหนดและยื่นขอได้ที่กรมการค้าระหว่างประเทศ รายละเอียดเพิ่มติดต่อสำนักบริการการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าระหว่างประเทศ สายด่วน 1385 

2. การยื่นเอกสารใบรับรองปลอดโรคพืชจากกรมวิชาการเกษตร เมื่อได้ใบรับการอนุญาตเป็นผู้ส่งออกสินค้าไทยแล้ว การส่งออกสินค้าแต่ละชนิดก็ยังมีขั้นตอนการขออนุญาตส่งออกที่แตกต่างกัน โดยหากเป็นพืชผลทางการเกษตร จำเป็นต้องขอเอกสารเพิ่มเติมประกอบการส่งออกกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตามประกาศกรมการค้าระหว่างประเทศเรื่องการกำหนดชนิดหรือประเภทของผักและผลไม้ที่ต้องมีหนังสือรับรองในการส่งออก ระบุให้ผลไม้ที่ส่งออกไปต่างประเทศหากประเทศที่นำเข้านั้นต้องการใบรับรองปลอดโรคพืช สารตกค้าง หรือแมลง ผู้ส่งออกสามารถขอใบรับรองดังกล่าวได้ที่กรมวิชาการเกษตร 

3. การเตรียมเอกสารสำหรับใช้ในการนำเข้าไปยังจีน นอกจากการเตรียมเอกสารใบรับรองของไทยเพื่อให้ผลไม้สามารถออกจากประเทศไทยได้อย่างถูกต้องแล้ว เพื่อให้สินค้าสามารถเข้าประเทศจีนได้อย่างถูกต้องทางการจีนก็ได้มีข้อกำหนดด้านสุขอนามัยผลไม้ที่จะนำเข้ามายังจีนที่ผู้นำเข้าจากทุกประเทศต้องปฏิบัติตาม ซึ่งปัจจุบันประเทศจีนโดยหน่วยงาน AQSIQ ( Administration of Quality Supervision, Inspection and Quarantine of the People’s Republic of China 国家质量监督检验检疫总局门户 ) ที่ดูแลด้านสุขอนามัยและการตรวจสอบความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดให้ผลไม้สดสามารถนำเข้าจีนได้โดยต้องขออนุญาตการนำเข้าสินค้าให้เรียบร้อยก่อนทำการส่งสินค้าออก ข้อกำหนดของเอกสารประกอบการนำเข้าจากฝั่งไทยที่ทางการจีนกำหนดนอกจากสอบถามโดยตรงที่หน่วยงาน AQSIQ แล้ว อาจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรประจำกรุงปักกิ่ง ซึ่งมีหน้าที่ติดตามรายละเอียดการนำเข้าโดยตรง ทั้งนี้ เนื่องจากกฏระเบียบการนำเข้าของทางการจีนมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยผู้ส่งออกจำเป็นต้องติดตามกฏระเบียบการนำเข้าผลไม้ของทางการจีนอย่างใกล้ชิด รายละเอียดเพิ่มเติมด้านข้อกำหนดด้านสุขอนามัยที่สำคัญของสาธารณรัฐประชาชนจีน (http://www.thaifruits-online.com/UserFiles/File/file/Health.pdf) 

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรประจำกรุงปักกิ่ง (ติดต่อ Office of Agricutural Affairs, Royal Thai Embassy, No.11, Jian Guo Men Wai, Chaoyang District, Beijing 100600, P.R.China E-mail : moac_bj@hotmail.com Tel : 8610 65323955 Fax : 8610 65323950) 

ทั้งนี้ ในการส่งออกผลไม้จากไทยเพื่อนำเข้าจีน ผู้นำเข้าจีนจะต้องมีเอกสารใบอนุญาตการนำเข้าผลไม้เพื่อยื่นขอนำเข้าด้วย สำหรับผู้ส่งออกที่ยังไม่เคยมีลูกค้าหรือผู้นำเข้าในจีนมาก่อน อาจเริ่มจากหาผู้ซื้อที่เป็นผู้นำเข้าจีน หรือผู้นำเข้าจีนที่มีใบอนุญาตการนำเข้าผลไม้ที่รับจ้างนำเข้าสินค้าเพื่อใช้เป็นผู้ยื่นขอการนำเข้าผลไม้มายังจีนได้ 

4. พิธีการศุลกากรจากกรมศุลกากรส่งออกสินค้าจากไทย เมื่อสินค้าได้รับการรับรองการส่งออก และมีใบอนุญาตใช้เพื่อเตรียมพร้อมในการนำเข้าผ่านหน่วยงานจีนแล้ว เพื่อให้สินค้าออกจากประเทศไทยอย่างถูกต้องยังจำเป็นต้องเตรียมเอกสารที่สำคัญ เช่น เอกสารใบขนส่งสินค้าขาออก (กศก.101) เอกสารใบราคาสินค้า Invoice (ตามจำนวนของใบขนขาออกที่ยื่นทั้งหมด) เอกสาร Packing list แสดงรายละเอียดการบรรจุหีบห่อ และเอกสารอื่นๆตามที่กรมศุลกากรต้องการ เป็นต้น โดยในขั้นตอนพิธีการศุลกากรนี้อาจมีขั้นตอนและมีการเตรียมเอกสารค่อนข้างมาก ดังนั้นส่วนผู้ส่งออกส่วนใหญ่จะใช้บริการของบริษัทชิปปิ้งที่มีบัตรผ่านศุลกากรเพื่อดำเนินการผ่านพิธีการศุลกากรส่งออกแทนในนามของบริษัท ซึ่งคุณสุทธิชัยอาจเลือกใช้บริษัทที่มีประสบการณ์พิธีการศุลกากรขาออก โดยสามารถเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือได้จากรายชื่อในเว็บไซต์สมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย www.ctat.or.th ได้ 

5. การใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีนำเข้าในจีนจากข้อตกลงการค้า FTA China-ASEAN เนื่องจากจีนและอาเซียนได้มีการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างประเทศ FTA China-ASEAN ซึ่งส่งผลให้สินค้าบางรายการที่ส่งออกจากไทยไปจีนไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้า ณ ประเทศจีน ซึ่งรวมถึงผลไม้สดจำนวน 23 ชนิดที่อนุญาตให้นำเข้าไปจีนด้วย ผู้ส่งออกที่ต้องการใช้สิทธิลดภาษีนำเข้านี้จะต้องมีหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ฟอร์มอี (Form E) ซึ่งสามารถยื่นขอได้ที่กรมการค้าต่างประเทศของไทย หอการค้าแห่งประเทศ หรือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ประกอบการลดภาษีนำเข้าไปยังประเทศจีนเหลือร้อยละ 0 ได้ หรือตามที่รายการข้อตกลงการลดภาษีกำหนดไว้ได้ อย่างไรก็ดีสินค้าที่ใช้สิทธิประโยชน์เพื่อลดภาษีการนำเข้านั้น เมื่อยังจะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าการนำเข้าอีกด้วย 

6. ความรู้เบื้องต้นด้านการค้าระหว่างประเทศ นอกจากขั้นตอนการขออนุญาตส่งออก การเตรียมเอกสารส่งออก การดำเนินพิธีการศุลกากรแล้ว ผู้ส่งออกควรมีความรู้เบื้องต้นด้านการค้าระหว่างประเทศที่จำเป็นอื่นๆ อีกเช่น การคำนวณต้นทุนและการตั้งราคาสินค้าเพื่อการส่งออก วิธีการชำระเงินและเงื่อนไข การชำระเงิน การทำสัญญาการค้าระหว่างประเทศ ข้อกำหนดในการส่งมอบสินค้า (Incoterm) การขนส่งทางทะเล ทางอากาศ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เปิดคอร์สด้านการส่งออก เช่น หลักสูตรความรู้เบื้องต้นการส่งออก, หลักสูตรผู้ส่งออกอัจฉริยะ Smart Exporter โดยสถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (http://application.ditp.go.th/training_institute/index.html) และหน่วยงานอื่นๆ เช่น กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) เป็นต้น 

7. ความรู้เบื้องต้นที่ควรมีสำหรับการค้าขายกับประเทศจีน นอกจากความรู้เบื้องต้นที่ผู้ส่งออกควรมีแล้ว ผู้ส่งออกควรมีความรู้เจาะลึกในทักษะที่ควรมีเพื่อค้าขายกับประเทศจีนอีกด้วย เช่น ความรู้ภาษาจีนเบื้องต้น ความเข้าใจอุปนิสัยทัศนคติการทำธุรกิจของคนจีนในยุคปัจจุบัน วัฒนธรรมทางการค้า การเจรจาการค้ากับชาวจีน การสื่อสารด้วยภาษาจีนเบื้องต้น การค้นหาข้อมูลทางการค้าภาษาจีน พฤติกรรมผู้บริโภคจีน ตลอดจนข้อควรระวังในการค้าขายกับจีน เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีนทั้ง 9 แห่งได้จัดทำจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและรวบรวมไว้ในเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีน www.thaibizchina.com 

8. การตลาดเพื่อการหาลูกค้าในต่างประเทศ/การหาผู้นำเข้าผลไม้ในจีน หลังจากที่มีพื้นฐานความรู้ด้านการส่งออกแล้วสิ่งต่อไปคือการหาลูกค้าในต่างประเทศ ก่อนที่จะส่งออกมายังต่างประเทศอาจพิจารณาเลือกตลาดที่จะส่งออกว่าควรส่งออกไปประเทศไหน หากเลือกส่งออกมายังประเทศจีนก็ควรเลือกว่าจะส่งออกมายังประเทศจีนในพื้นที่ใด ซึ่งจีนในแต่ละพื้นที่มีรสนิยมความชอบสินค้าแตกต่างกัน กำลังซื้อต่างกัน สภาพตลาดสินค้าในแต่ละพื้นที่ก็ย่อมแตกต่างกัน ผู้ส่งออกควรทำความเข้าใจกับแต่ละพื้นที่ที่จะส่งออก ตลอดจนศึกษาข้อมูลการตลาดของสินค้าในแต่ละพื้นที่ก่อนที่จะเลือกเมืองที่จะส่งออกสินค้าไป ผู้ส่งออกอาจจำเป็นต้องเดินทางมาสำรวจตลาด ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เสาะหาช่องทางการเข้าตลาดในการขายสินค้าด้วยตัวเอง เป็นต้น

ลิงค์: https://www.thaitpi.com/article_view.php?__lang=tha&atid=180

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางทะเล


การขนส่งสินค้าทางทะเล 
การขนส่งสินค้าทางทะเล เป็นส่วนประกอบที่สําคัญส่วนหนึ่งของ ระบบการค้าระหว่างประเทศ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต เพราะเป็นเพียงการขนส่งชนิดเดียวที่ขนสินค้าได้คราวละมากๆ และค่าระวางมีราคาถูกกว่าการขนส่งในรูปแบบอื่น ๆ การขนส่งสินค้าทั้งขาเข้าและขาออกของไทยเป็นการขนส่งทางทะเลเป็นส่วนใหญ่ดังนั้น การขนส่งสินค้าทางทะเลจึงเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการแข่งขันทางการค้าในตลาดโลก ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนําเข้าและส่งออกสินค้าจึงควรจะศึกษาและทําความเข้าใจในองค์ประกอบต่างๆ ที่สําคัญเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางทะเล ดังนี้คือ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางทะเล 

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางทะเล ได้แก่ 

- เจ้าของเรือ (Ship Owner) 
- ผู้เช่าเรือ (Ship Charterer) 
- ตัวแทนสายเดินเรือ และตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Shipping Agent & Freight Forwarder) 
- ผู้ส่งสินค้า (Shipper or Exporter) 
- ผู้รับตราส่ง (Consignee) 
- ผู้รับสินค้า (Notify Party) 

ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือได้แก่ 
1. บริษัทเรือหรือตัวแทนสายเดินเรือ 
2. Sea Freight Forwarder 

บทบาทและหน้าที่ของผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล มีดังนี้ 
A. ตัวแทนสายเดินเรือ (Ship Agent) 
ตัวแทนสายเดินเรือคือผู้รับมอบอํานาจจากเจ้าของเรือ ให้เป็นผู้ดําเนินการแทนเจ้าของเรือ ณ.เมืองท่าต้นทางและเมืองท่าปลายทาง ตัวแทนสายเดินเรือมีหน้าที่โดยทั่วไป ดังต่อไปนี้ 
   • จัดหาระวางบรรทุกให้แก่ผู้นําเข้าและผู้ส่งออก 
   • ออกใบตราส่งสินค้าให้แก่ผู้ส่งออก 
   • ออกใบสั่งปล่อยสินค้าให้แก่ผู้นําเข้า 
   • SEA FREIGHT 
การขนส่งทาง เรือได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เนื่องจากค่าใช้จ่ายถูก เหมาะกับสินค้าปริมาณมากหรือมีขนาดใหญ่ แต่ข้อจำกัดคือเรื่องเวลา ลูกค้าหลายรายได้รับผลกระทบจากปัญหาล่าช้า ปกติทุกสายเรือมีตารางเดินเรือที่แน่นอน แต่ในบางครั้งอาจเปลี่ยนแปลง สาเหตุจากสภาพอากาศ สินค้าแน่นตามช่วงฤดูกาล หรืออื่นๆ ซึ่งอยู่เหนือการควบคุม ผู้ส่งสินค้าควรวางแผนใช้ชัดเจน และควรเผื่อเวลาเอาไว้ด้วย 

ประเภทการบริการ 
1. CONTAINER 
   • LCL คือแบบไม่เต็มตู้ ในกรณีที่ผู้ส่งมีสินค้าปริมาณน้อยค่า Freight คิดเป็น USD/CBM(ลูกบาศก์เมตร) 
   • FCL คือแบบเหมาตู้ สินค้าเป็นของผู้ส่งเพียงรายเดียว ค่า FREIGHT คิดเป็น USD/CONT.ขนาดตู้แบ่งเป็น 20 FT STD, 40 FT STD ,40 FT HQ 
   • FRRFER เป็นตู้ที่ติดตั้งเครื่องทำความเย็น ใช้บรรจุอาหารและสินค้าที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ 

ความสำคัญของการขนส่งทางทะเล 
• ก่อให้เกิดกิจการที่ต่อเนื่อง เช่น การรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ(Freight Forwarder Agent) 
• ตัวแทนออกของ (Customs Broker) 
• การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodel Transport) 
• กิจการโลจิสติดส์(Logistics Service) 

ระบบการขนส่งทางทะเล ประกอบด้วย 
• การขนส่งสินค้าจากท่าเรือหนึ่ง ไปยังอีกท่าเรือหนึ่ง 
• กิจกรรมบนท่าเรือที่เกี่ยวข้อง 
• การขนถ่ายสินค้า ขึ้น-ลง จากเรือเดินทะเล 
• การคัดแยก และบรรจุสินค้า 
• การเคลื่อนย้ายสินค้า 
• การเก็บรักษาสินค้า 
• การขนส่งที่เชื่อมโยง เพื่อเคลื่อนย้ายสินค้าจากท่าเรือไปยังผู้รับสินค้า หรือ กลับกัน 
• กิจการที่เกี่ยวเนื่อง 
• กิจการอู่เรือ 
• กิจการท่าเรือบก(Inland Container Depot,ICD) 
• กิจการรับจัดขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ(freight Forwarder Agent) 
• กิจการตัวแทนออกของ(Customs Broker) 
• กิจการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ(Multimodal Transport) 
• กิจการบริการด้านโลจิสติคส์(Logistics Service) 

รูปแบบการบริการขนส่งทางทะเล 

• บริการประจำเส้นทาง(Liner Service) มีเส้นทาง ตารางเดินเรือที่แน่นอน มีการเก็บค่าระวางที่แน่นอน 
• บริการไม่ประจำเส้นทาง หรือ เรือ จร (Tramp Service) ขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้าง หรือ เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างผู้ว่าจ้างกับ ผู้รับจ้าง 

ประเภทเรือสินค้า (VESSEL) 

• เรือสินค้าประเภท กอง(Bulk Carrier) 
• เรือสินค้าประเภท หีบห่อ (Break-Bulk Vessels) 
• เรือสินค้าบรรจุตู้ (Container Vessels) 
• เรือสินค้า RO-RO ใช้ระบบลากแคร่บรรจุสินค้า ขึ้นลงจากเรือ อาจเป็นตู่คอนเทนเนอร์ เครื่องจักร รถยนต์ ก็ได้ 

การขนส่งระบบตู้คอนเทนเนอร์(Container )โดย การขนส่งชนิดนี้เป็นวิวัตนาการของการขนส่งทางทะเลที่พัฒนาขึ้นจากในอดีต เนื่องด้วยความจำเป็นของสภาพสินค้าและค่าใช้จ่ายในการขนส่งมีข้อดี คือสะดวกในการยกขน หรือเคลื่อนย้ายสินค้า 
• จากเรือถึงฝั่ง 
• ภายใน ท่าเรือ 
• จากท่าเรือไปยังผู้รับสินค้า 
• ใช้ระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ เช่น รถ ไป รถไฟ / รถไฟไปเรือ / เรือ ไป รถ 
• ประหยัดค่าแรงงาน 

ประเภทตู้คอนเทนเนอร์ 

• ขนาดมาตรฐาน กว้าง 8 ฟุต สูง 8 ฟุต 6 นิ้ว 
• ยาว 20 ฟุต (ตู้สั้น) และ 40 ฟุต ตู้ยาว มีขนาด ยาว 45 ฟุต ด้วย(เฉพาะบางสายเรือ) 
• ตู้ควบคุมอุณหภูมิ(REEFER) 
• เป็นตู้เย็นเคลื่อนที่ มีฉนวนหุ้ม หรือมีระบบกันความร้อน 
• ตู้พิเศษ 
• ออกแบบให้ใช้กับสินค้าที่มีลักษณะ แปลกไปจากปรกติ เช่น บรรจุก๊าซ ของเหลว เปิด หลังคา หรือ เปิดข้าง เป็นต้น 
• CONTAINER SERVICE

ลิงค์: https://www.thaitpi.com/article_view.php?&__lang=tha&atid=173

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

วิธีการในการส่งออกสินค้าไปจีน

วิธีการในการส่งออกสินค้าไปจีน


วิธีการในการส่งออกสินค้าไปจีน

> เราจะขายสินค้าอะไร
ในกรณีที่เรามีสินค้าอยู่แล้วนั่นก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่สำหรับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจหรือยังไม่แน่ใจว่าสินค้าที่มีอยู่ในมือแล้วจะส่งออกไปจีนให้รุ่งได้นั้น ควรเป็นแนวไหน ตรงนี้มีข้อแนะนำคือ สินค้ากลุ่มบริโภคและอุปโภคที่ใช้แล้วหมดไป เพราะจีนมีความต้องการในเรื่องนี้สูงมาก ตั้งแต่ อาหาร ผลไม้ อาหารแห้ง ขนมขบเคี้ยว เครื่องสำอาง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในครัวเรือน ฯลฯ

> ขอจดทะเบียนตั้งบริษัทในจีน
ที่จริงขั้นตอนนี้ขอไม่ยากนัก เพราะทางการจีนในแต่ละมณฑลค่อนข้างสนับสนุนการเข้ามาลงทุนจากต่างชาติอยู่แล้ว ซึ่งการจดทะเบียนเพื่อตั้งบริษัทก็มีเทคนิคอยู่บ้าง เช่น ขอจดเพื่อตั้งบริษัทในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่นอกเมืองซึ่งจะช่วยเอื้อประโยชน์บ้างด้านได้ เช่น ขอลดภาษี แล้วจึงเข้ามาตั้งสำนักงานสาขาในเขตตัวเมือง เป็นต้น

> ช่องทางจัดจำหน่าย
การหาช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นส่วนสำคัญของทุกธุรกิจ ในเมืองจีนและของไทยเองก็มีบริษัทตัวแทนเหล่านี้ให้เลือกใช้บริการ แต่ก็มีข้อควรระวังเรื่องความน่าเชื่อถือซึ่งต้องตรวจสอบให้ละเอียดด้วย โดยเราสามารถหาข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้อีกทางหนึ่ง นอกจากผ่านตัวแทนแล้ว การขายผ่านระบบออนไลน์ก็เป็นช่องทางที่สำคัญ โดยเฉพาะถ้าเราเน้นสินค้าขายปลีกหรือจับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เพราะพวกเขาสามารถสั่งซื้อสินค้าต่างๆ ผ่าน WeChatpay หรือทาง Taobao ได้ง่ายๆนั่นเอง

> ขั้นตอนขออนุญาตนำเข้า
เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องตรวจสอบให้ดี เพราะสินค้าบางประเภทมีจำกัดโควตา แม้ว่าล่าสุดทางการจีนจะลดการจำกัดสินค้านำเข้าเพิ่มเติมแล้วบังคับใช้แล้วในปี 2561 แต่สินค้าบางประเภทก็ยังมีการจำกัดโควตาอยู่ดี มีคำแนะนำคือ ให้เริ่มจากการขออนุญาตสำหรับฉลากสินค้า โดยจะต้องนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกทางหนึ่ง แล้วเราต้องนำตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากระบุ วันผลิต วันหมดอายุ ส่วนประกอบ เพื่อไปยื่นขอรับรองผลิตภัณฑ์ ไม่ต่างกับการขอรับรอง อาหารและยา (อย.) ของไทยนั่นเอง ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน จากนั้นนำใบรับรองฉลากไปยื่นขอนำเข้าสินค้าที่ด่านศุลกากร แล้วขั้นตอนสุดท้ายก็จะมีการนำสินค้าไปผ่านการตรวจความปลอดภัย เมื่อเรียบร้อย ก็จะสามารถนำไปวางขายได้ครับ



คุณกำลังมองหา บริษัทส่งออกต่างประเทศ อยู่หรือเปล่า
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บ www.thaitpi.com
บริษัทส่งออก , ส่งสินค้าไปต่างประเทศ